นอกจากแอนิเมชั่นสนุก เนื้อเรื่องดี ที่ดิสนีย์ยังมีดีอีกอย่างคือเพลงนี่เอง น้อยนักที่สตูดิโออื่นจะทำเพลงประกอบแอนิเมชั่นได้ดีเท่าของดิสนีย์แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเพีงแต่น้อยกว่าเท่านั้นเอง คราวนี้มาดูกันว่าเพลงไหนที่ฮิตๆติดหูแถมดังเปรี้ยงปร้างสุดๆจนใครๆก็คุ้นหูนว่ามีเพลงไหนจากเรื่องไหนบ้าง แล้วมันจะคุ้นหูจริงไหมนะ??
The Lion King - Can You Feel the Love Tonight
เพลงประกอบจากเรื่องราวของสิงโตหนุ่มที่แย่งชิงตำแหน่งราชาแห่งป่าคืนจากอาของตัวเองที่ฆาตรกรรมอดีตราชา ซิมบ้าคือตัวหลักของเรื่องและนาร่า เพลงนี้เป็นเพลงที่เพราะมากอีกเพลงหนึ่งโดยมีอีกฉบับที่ได้ Sir Elton John ร้องซึ่งก็เพราะมากเช่นกัน ถือเป็นเพลงที่ติดหูและดังมากที่เดียวในปีที่ออกฉาย
Mulan – Reflections
อีกเพลงยอดนิยมที่ทุกวันนี้ยังคงมีคนหาฟังก็เพลงนี้นี่แหละ จากแอนิเมชั่นเรื่องมู่หลาน หญิงสาวชาวจีนที่ออกรบแทนพ่อผู้แก่ชราแล้วและสามารถนำชัยชนะมาให้กองทัพจีนด้วยจนได้รับการยกย่องเป็นวีรสตรีรวมถึงได้แต่งตั้งเป็นเจ้าหญิงทั้งๆที่เป็นหญิงสาวธรรมดาอีกด้วย
Hercules-I Won't Say I'm In Love
เพลงที่สื่อถึงความลังเลของเมการ่า นางเอกสาวของเรื่องที่ไม่แน่ใจว่าจะหลงรักเฮอคิวลิสดีหรือไม่ทั้งๆที่จริงๆก็รักเขาไปแล้ว เพียงแต่ยังติดอยู่กับอดีตจนไม่คิดว่าจะมีรักใหม่ได้ รวมถึงเมการ่าเองก็มีความลับบางอย่างที่ไม่อาจบอกหนุ่มทรงพลังอย่างเฮอคิวลิสได้ เป็นอีกเรื่องคลาสสิคที่ทั้งสนุกเพลงหลายเพลงก็เพลินหูโดยเฉพาะเพลงนี้
Aladdin - A Whole New World
บทเพลงที่บอกความรู้สึกถึงความแปลกใจของเจ้าหญิงที่ไม่เคยออกมาเจอโลกกว้าง พอได้ออกมากับอลาดินและพรมวิเศษจึงเหมือนเปิดโลกใหม่ให้แก่เธอที่ไม่เคยได้ออกไปพบเจออะไรมากมายขนาดนี้ และยังหมายความว่าอลาดินยังอยากพาเจ้าหญิงจัสมินไปเจอโลกใหม่ๆมากกว่าเดิมอีกด้วย
The Little Mermaid – Part of your world
เพลงเปิดตัวเจ้าหญิงเงือกน้อยที่อยากเป็นมนุษย์และอยากเรียนรู้การเป็นมนุษย์หลายๆแบบ รวมถึงตกหลุมรักเจ้าชายมนุษย์อีกด้วย ตัวเนื้อเพลงพรรณนาถึงตัวแอเรียลเองที่อยากจะรู้อะไรที่ตนไม่รู้อีกเยอะ แต่จะเป็นมนุษย์ได้ก็ต้องแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างที่ทำให้ชีวิตของเงือกน้อยเปลี่ยนไปตลอดกาล
Beauty and the Beast - Tale As Old As Time
เพลงติดหูอีกเพลงต้องเพลงนี้เลย ไม่ว่าจะเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นหรือเวอร์ชั่นคนแสดงก็ล้วนไพเราะติดหูและฟังง่าย รวมถึงฉากเต้นรำที่ใช้เพลงนี้ประกอบก็เข้ากันกับเพลงเหลือเกิน จะดูหรือฟังกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยกับเรื่องราวของอสูรที่ต้องแก้คำสาปโดยรักแท้
Pocahontas - Colors of the Wind
เป็นอีกเพลงอมตะที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยได้ยินและคุ้นหูบ้างถึงแม้ตัวแอนิเมชั่นเด็กรุ่นใหม่จะเริ่มไม่รู้จักแล้ว แต่เรื่องราวของการแย่งดินแดน การเหยียดสีผิวก็อัดแน่นอยู่ในเรื่องนี้เต็มๆจนสมควรจะเป็นอีกเรื่องที่เด็กควรดูเพื่อปลูกฝังความต่างทางวัฒนธรรมให้และคุ้นชินกับมัน ตัวเพลงเองก็หมายถึงให้พระเอกเปิดใจเรียนรู้ในเรื่องของป่าของธรรมชาติเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่บ้าง
Tangled – I see the light
ไม่พูดถึงเพลงนี้ก็คงไม่ได้ เพลงเพราะฟังง่าย เสียงใสๆผสมผสานกับทำนองที่ฟังแล้วทั้งอลังการและลื่นไหลจนติดหูติดใจอย่างง่ายดายจากเรื่อง Tangled หรือราพันเซล สาวน้อยผู้อาศัยอยู่บนหอคอยมาทั้งชีวิตและมีผมสีทองยาวสยายจนถึงขั้นโยนลงจากหอคอยยังได้ สิ่งที่เธอต้องการที่สุดในชีวิตคือการได้ดูโคมลอยจากในเมืองเท่านั้นเอง ในเพลงนี้คือช่วงที่เธอได้เห็นแล้วและตัวเพลงก็หมายถึงทั้งโคมลอยที่สวยงาม รวมถึงผู้ชายตรงหน้าเธออีกด้วย
Frozen – Let it go
เพลงดังที่ดังแบบสุดๆเลยก็ว่าได้ มีช่วงหนึ่งที่เดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่เพลงนี้รวมถึงมองไปทางไหนก็มีแต่คนชอบเอลซ่าและอันนาเพราะเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่ไม่เหมือนกับเรื่องราวที่ผ่านมาของเจ้าหญิงทั้งหลาย เรื่องนี้ส่งเสริมให้เป็นตัวของตัวเองและส่งเสริมความรักในครอบครัวได้อย่างดี
Moana - How Far I'll Go
เพลงติดหูล่าสุดจาก Moana ที่ไม่พ้นอยากเรียนรู้โลกใหม่ไม่ต่างกัน แต่ในเรื่องราวของโมอาน่านั้นต้องทำภารกิจบางอย่างเพื่อช่วยเหลือเกาะตัวเองไม่ให้หายไป ในหน้าที่ของผู้นำคนต่อไปเธอต้องทำให้ได้แต่พ่อของเธอผู้ที่ยังดำรงค์ตำแหน่งหัวหน้าเผ่ากลับไม่เคยยอมให้ใครออกนอกเกาะไป ในขณะเดียวกันท้องทะเลก็ร้องหาโมอาน่าเพราะนี่คือชะตาของเธอที่ต้องพบเจอนั่นเอง
เพลงส่วนมากของแอนิเมชั่นดิสนีย์นั้นจะมีความหมายเกี่ยวกับความใสซื่อของตัวเดินเรื่องที่ไม่เคยรู้อะไร อาจสื่อได้ถึงเด็กๆที่กำลังดูอยู่ก็ได้ เนื้อหาส่วนมากเป็นเรื่องที่ปลูกฝังให้เด็กรู้จักความรัก การเสียสละ ความช่วยเหลือและความชั่วร้ายที่แฝงมาในภาพแอนิเมชั่นน่ารักๆ ถึงอย่างนั้นถ้ามีผู้ปกครองคอยอธิบายเพิ่มเติมด้วยก็จะดีมากกว่าเดิม