ผู้ใหญ่หลายต่อหลายคนมีความเข้าใจผิดอยู่ไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับการ์ตูนและการรับทำการ์ตูนซึ่งเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าการ์ตูนนั้นเป็นเรื่องของเด็กๆ เนื้อหาต่างๆของการ์ตูนนั้นมีให้เฉพาะเด็กๆไว้อ่านเท่านั้น (มาถึงจุดนี้ก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผู้อ่านนั้นมีหลายช่วงอายุ ขึ้นอยู่กับว่า เด็กในที่นี้จะเป็นเด็กในวัยไหน แต่ทางผู้เขียนจะขอเป็นช่วงตั้งแต่ 10 ปีไปจนถึง 18 ปี) ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มีการ์ตูนอยู่หลายต่อหลายเรื่องเลยที่เดียวที่เนื้อหานั้นไม่ใช่สำหรับเด็กเลยด้วยซ้ำไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่หนักหน่วงและซับซ้อน จำเป็นต้องคิดให้ลึกซึ้งเพื่อจะได้เข้าใจในสิ่งที่การ์ตูนนั้นต้องการนำเสนอหรือเรื่องราวที่ดูเรียบง่ายเบาๆ แต่แฝงให้เห็นถึงความยากลำบากของการใช้ชีวิตและสอนการใช้ชีวิตให้มีคุณค่ามากที่สุด
ผู้อ่านอาจจะคิดไม่ออกว่าการ์ตูนเรื่องไหนกันที่มีเนื้อหาดังที่กล่าวมาในข้างต้น ซึ่งเอาจริงๆแล้วมันก็มีแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้น แต่ตัวอย่างที่ดีและเห็นได้อย่างชัดเจนก็มีอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว
โมบิลสูทกันดั้ม (2522-2523)
โดยเนื้อเรื่องคร่าวๆของโมบิลสูทกันดั้มนั้น มีอยู่ว่าปีศักราชอวกาศ 0079 สงครามระหว่างเอิร์ธนอยด์กับสเปซนอยด์ที่เกิดขึ้นจากการปลดแอกของชาวโคโลนีไซด์ 3 ซึ่งใช้ชื่อว่า ซีออน กองทัพโลกหรือทางกองทัพสหพันธ์ซึ่งเสียเปรียบอยู่เนื่องจากทางซีออนได้คิดอาวุธรุ่นใหม่ขึ้นมา อาวุธที่มีรูปแบบมาจากมนุษย์เรียกว่าโมบิลสูท (Mobile Suit หรือ MS) เป็นกลุ่มของหุ่นยนต์อาวุธรูปร่างคล้ายมนุษย์ขนาดใหญ่ในซีรีส์กันดั้ม ชื่อโมบิลสูทเชื่อว่าได้รับอิทธิพลจาก โมบิลอินแฟนทรี และ พาวเวิร์ดสูท ในนิยายวิทยาศาสตร์อย่างสตาร์ชิปทรูเปอร์ของโรเบิร์ต เอ. ไฮน์ไลน์ ทำให้ทางซีออน นั้นได้เปรียบทางสหพันธ์โลกเป็นอย่างมากในยุทธศาสตร์ทางสงคราม ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่าอนุภาคไมนอฟสกี้ ที่ทำให้สงครามนั้นยืดเยื้อขึ้น และที่สุดกองทัพโลกก็ได้คิดค้น โมบิลสูท รุ่นใหม่ขึ้นซึ่งเรียกว่า บทเริ่มต้นจุดจบของของสงคราม1ปี
อามุโร่ เรย์ เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในไซด์ 7 ได้ขึ้นบังคับ กันดั้ม [RX-78-2] (เป็นโมบิลสูทตัวเอกของการ์ตูนญี่ปุ่น แอนิเมชั่นซีรีส์โมบิลสูทกันดั้ม ออกแบบโดยคุนิโอะ โอคาวาระ) ในครั้งที่ซีออนบุกมาโจมคีไซด์7 อามุโร่ เรย์ ทั้งที่ขึ้นขับเป็นครั้งแรก ก็สามารถทำลายแซค[zaku] ของซีออนได้ถึง2เครื่อง หลังจากนั้นอามุโร่ก็ได้เข้าประจำการ และเป็นกำลังสำคัญให้กับกองทัพโลก ทางซีออนเองก็มีชาร์ อัสนาเบิลฉายาดาวหางสีแดง เป็นกำลังสำคัญเช่นกัน ในตอนท้ายของสงคราม ราร่า คนรักของชาร์ และหญิงที่อามุโร่หลงรัก ได้ยอมสละชีวิตตนเพื่อช่วยชาร์จากการโจมตีของอามุโร่ ทำให้ทั้งชาร์ และ อามุโร่ กลายเป็นคู่แค้นกันตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา สุดท้ายแล้วสหพันโลกก็สามารถเอาชนะสงตราม1ปีได้ ชาร์หายสาบสูญ อามุโร่ยังคงเป็นทหารของกองทัพต่อไป
เราจะเห็นได้ว่าเนื้อเรื่องคร่าวๆนั้นก็เหมือนเป็นเนื้อเรื่องปกติทั่วไปของการ์ตูนเด็กผู้ชายธรรมดาที่จะต้องการให้เนื้อเรื่องนั้นไปทางแอคชั่นแฟนตาซีที่มีโรแมนซ์เล็กน้อย ทว่า ในความเป็นจริงแล้วนั้น มันมีอะไรมากกว่าเรื่องของแอคชั่นแฟนตาซี
อีวานเกเลี่ยน (2538-2539)
ในขณะที่โลกพึ่งถือกำเนิด เผ่าพันธุ์เทวทูต (หรือทูตสวรรค์) ได้ถูกเลือกให้เป็นผู้ชี้นำอารยธรรมบนโลกใบนี้ โดยมี อดัม เป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตทั้งมวล แต่การมาถึงของดวงจันทร์สีดำซึ่งภายในมี ลิลิธ อยู่ เมื่อสี่พันล้านปีก่อนถือเป็นภัยคุกคามต่อเผ่าพันธุ์เทวทูต ทั้งนี้ กฎการหยั่งรากได้กำหนดไว้ว่า ไม่สามารถจะมีสิ่งมีชีวิตทั้งสองเผ่าพันธุ์อยู่บนดาวเคราะห์ดวงเดียวกันได้ เนื่องจากหากอดัม (ผู้มีผลไม้แห่งชีวิต) รวมกับ ลิลิธ (ผู้มีผลไม้แห่งปัญญา) จะมีพลังเทียบเท่าพระเจ้า ดังนั้นจึงกำหนดกลไกที่เรียกว่า หอกลองกินุส ขึ้นมา เพื่อยับยั้งการเจริญของเผ่าพันธุ์ใดเผ่าพันธุ์หนึ่ง แต่ทว่า หอกลองกินุสที่มากับลิลิธ ได้สูญหายหรือถูกทำลายไประหว่างที่ตกสู่โลก ดังนั้นหอกลองกินุสของอดัมจึงหยุดยั้งอดัมไว้ และอดัมก็หลับไหลอยู่ภายในขั้วโลกใต้ตั้งแต่นั้นมา ในขณะที่ลิลิธกลายเป็นผู้ให้กำเนิดมวลมนุษยชาติขึ้นมา
ภายหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง มีการค้นพบเอกสารโบราณที่บริเวณทะเลเดดซี ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งองค์กรลับนามว่า เซเล่ ขึ้นที่เยอรมนี กายใต้การนำของ คีล ลอเรนซ์ เซเล่ได้เข้าไปสนับสนุนโครงการของประเทศอภิมหาอำนาจต่างๆ ตลอดจนสหประชาชาติ ในที่สุด ปลายศตวรรษที่ 20 เซเล่ก็กลายเป็นองค์กรเบื้องหลังที่มีอิทธิพลที่สุดในโลกและสามารถควบคุมสหประชาชาติ
ทศวรรษที่ 1990 คณะนักสำรวจในนามสหประชาชาติได้ค้นพบดวงจันทร์สีขาวที่มียักษ์หลับใหลพร้อมหอกลองกินุสอยู่ภายในบริเวณขั้วโลกใต้ พวกเขาได้ตั้งชื่อยักษ์ตนนี้ว่า อดัม คณะนักสำรวจจึงได้ดึงหอกลองกินุสออก และนำไปศึกษาที่ประเทศจอร์แดน และเริ่มทำการสำรวจร่างกายอดัม สหประชาชาติเริ่มก่อสร้างฐานปฏิบัติการที่สองที่ขั้วโลกใต้จนแล้วเสร็จในปี 1999 ผลการศึกษาร่างกายอดัมพบว่า มีดีเอ็นเอเหมือนมนุษย์ถึง 99% ซึ่งทำให้เกิดทฤษฎีว่าอดัมคือมนุษย์คนแรก
สิงหาคม ปี 2000 ได้มีการเริ่มการทดลองตัวอย่างอดัมที่ขั้วโลกใต้ โดยมีผู้ให้ทุนสำรวจ (เซเล่) เป็นผู้สังเกตการณ์ ในขณะที่หอกลองกินุสกำลังอยู่ระหว่างการขนส่งมายังฐานปฏิบัติการที่สอง วันที่ 12 กันยายน 2000 คณะผู้สังเกตการณ์และสมาชิกบางส่วน ได้เดินทางกลับเยอรมนีและญี่ปุ่น การทดลองในวันต่อมาเป็นการทดลอง Contact Experiment กับอดัมโดยติดตั้งแหล่งพลังงานอนันต์ S² Engine เข้ากับตัวอดัมที่หลับไหลอยู่ การเดินเครื่อง S² Engine ทำให้ร่างของอดัมปลดปล่อยสนามพลังปฏิภาคเอ.ที. (Anti A.T. field) ออกมา สนามพลังปฏิภาคฯจากร่างอดัมนี้ได้ไปสลายสนามพลังเอ.ที.ของนักวิจัย(มนุษย์)ในที่ทดลอง ทำให้ร่างและจิตใจของนักวิจัยเหล่านั้นกลายเป็น LCL รวมเข้ากับตัวอดัม อดัมตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์เและประตูแห่งกัฟได้เปิดออกเพื่อชำระล้างโลก คณะวิจัยที่เหลืออยู่ได้พยายามผนึกอดัมโดยการยิงหอกลองกินุสปักสู่ร่างอดัม แต่หอกลองกินุสไม่สามารถหยุดยั้งอดัมได้และอดัมได้ฆ่านักวิจัยที่เหลือ ขณะที่ S² Engine จ่ายพลังงานมหาศาลจนอดัมกลายร่างเป็นยักษ์แห่งแสงขนาดมหึมา ในที่สุดร่างกายของอดัมเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงและหลอมละลายน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ไปแทบทั้งหมด อดัมกลายสภาพเป็นตัวอ่อนและวิญญาณแตกแยกออกไป
สหประชาชาติออกแถลงการณ์ต่อชาวโลกว่า การระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากอุกกาบาตตกลงสู่ทวีปแอนตาร์กติกา และขนานนามเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า "เซคัลด์ อิมแพก" การหลอมละลายน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างมาก เกิดภัยพิบัติต่างๆและสงครามขึ้นมากมาย หนึ่งสัปดาห์หลังการระเบิด ในวันที่ 20 กันยายน 2000 กรุงโตเกียวเดิม (โตเกียว-1) ถูกทิ้งระเบิดปรมาณูจนพินาศย่อยยับ ภัยพิบัติและสงครามในครั้งนี้คร่าชีวิตคน 1/3 ของทั้งประชากรโลก รัฐบาลญี่ปุ่นได้ดำเนินการสร้างโตเกียว-2 ไว้ที่เมืองมะสึโมะโตะในฐานะเมืองหลวงแห่งใหม่ แล้วเสร็จในปี 2003
องค์การ เฮิร์น (ต่อมาคือ เนิร์ฟ) ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาชีวจักรกล อีวานเกเลียน (หรือ อีวา) ซึ่งโคลนมาจากลิลิธ และพัฒนาซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ เมไจ ตลอดจนสร้างเมืองจีโอฟรอนซ์และนีโอโตเกียว-3 เพื่อรับมือกับเทวทูตที่บันทึกไว้ในคัมภีร์เดดซี จนกระทั่งในอีกสิบกว่าปีต่อมา เทวทูตก็ปรากฏตัวขึ้นและเข้าโจมตีเนิร์ฟสาขาญี่ปุ่น กำลังทหารของสหประชาชาติไม่สามารถทำอะไรเทวทูตได้ เช่นนั้น อีวา จึงถูกนำมาใช้เพื่อต่อกรกับเหล่าเทวทูต
แขนกลคนแปรธาตุ (2544-2546)
เอ็ดเวิร์ด และ อัลฟองเซ เอลริค สองพี่น้องตระกูลเอลริค ต้องสูญเสียแม่ที่รักไปอย่างกะทันหันด้วยโรคระบาด ทั้งคู่จึงตัดสินใจใช้วิชาแปรธาตุในการ “ชุบชีวิตมนุษย์” ซึ่งถือเป็นวิชาต้องห้ามของการเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อคืนชีวิตให้กับแม่ของตน แต่ด้วยสัจจะของโลกแล้วไม่สามารถสร้างชีวิตขึ้นมากจากความว่างเปล่าได้ เอ็ดและอัลต้องจ่ายค่าผ่านทางในการรับรู้แก่นแท้โดยแลกด้วยร่างกาย เอ็ดจ่ายด้วยขา ส่วนอัลจ่ายด้วยร่างกายทั้งหมด เมื่อกลับขึ้นมากจากประตูสัจจะเอ็ดพบว่าร่างของน้องชายหายไปทั้งหมด จึงจ่ายด้วยแขนและดึงวิญญาณของน้องชายผนึกไว้ในชุดเกราะด้วยตราวงแหวนเลือด
พันเอก รอย มัสแตง แห่งกองทัพทราบเรื่องเห็นว่าเอ็ดมีฝีมือถึงขนาดสามารถผนึกวิญญาณได้ จึงเสนอให้เอ็ดเข้าเป็น "นักเล่นแร่แปรธาตุของทางการ" เพื่อที่เอ็ดจะได้รับสิทธิต่างๆจากทางการ และเป็นการสะดวกยิ่งขึ้นในการหาวิธีกลับเป็นเหมือนเดิม เอ็ดได้ตอบตกลงเข้านักเล่นแร่แปรธาตุของทางการ ได้ฉายาว่า นักเล่นแร่แปรธาตุเหล็กไหล จากการที่เขาสามารถใช้วิชาแปรธาตุได้โดยไม่ต้องใช้วงแหวนแปรธาตุ และเริ่มออกตามหาศิลานักปราชญ์ เป็นศิลาวิเศษณ์ที่ทำให้สามารถใช้พลังการแปรธาตุที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยนที่ทัดเทียม
สรุปแล้วถึงแม้จะเป็นการ์ตูนแต่ด้วยตัวเนื้อหาที่มีความรุนแรงและซับซ้อนเข้าใจยากจึงไม่ได้เหมาะกับเด็กเสมอไป ถึงแบบนั้นก็ใช่ว่าเด็กเองจะอ่านไม่ได้หากสนใจการ์ตูนเรื่องนั้นก็อาจจะทำให้เด็กๆได้ความรู้มีประโยชน์ใหม่ๆมากมายขึ้นมาก็ได้เช่นกัน โดยที่ผู้ใหญ่ก็อาจลองเปิดใจและช่วยให้คำแนะนำแก่เด็กๆไปด้วย และด้วยความที่การ์ตูนนั้นมีเนื้อหาหลากหลายสังคมเองก็เปิดรับมากขึ้น ปัจจุบันจึงเริ่มมีการรับทำการ์ตูนที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้นตามไปด้วย