
เทรนด์การออกแบบเว็บ
เทรนด์การออกแบบเว็บดีไซน์ก็ไม่ต่างอะไรไปกับแฟชั่นเสื้อผ้าที่มีทั้งการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และบางสิ่งที่ยังเป็นอมตะอยู่เสมอ ทำให้ผู้รับออกแบบเองก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน โดยในระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้ Digital Platform มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ๆขึ้นมา วันนี้เราจึงจะลองมาดู 9 เทรนด์ที่คาดว่าจะได้เห็นในอนาคตกัน
1.มือถือต้องมาก่อน
อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอีกต่อไป หากต้องออกแบบเว็บไซต์โดยยึดจากจอ smartphone ก่อนแล้วจึงค่อยออกแบบจากหน้าเว็บสำหรับแท็ปเล็ต และเดสก์ทอปพีซีตามมาทีหลัง เนื่องจากในยุคปัจจุบันพวกเราใช้มือถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว และจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจากค่าตัวเลขสถิติ จึงไม่น่าแปลกเลยถ้าเราจะเห็นเว็บไซต์ต่างๆผ่านมือถือเราก่อน ทำให้เราต้องออกแบบ contents ให้ดูดีที่สุดบนจอ smartphone
2.ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้
หรือที่เรียกกันว่า Responsive Design นั่นเอง เทรนด์นี้เป็นเทรนด์ที่ฮิตมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ก็ยังคงอยู่ บางคนอาจจะสงสัยว่า มันคืออะไร พูดแบบง่ายๆก็คือ การออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับกับทุกหน้าจอ devices โดยการเขียนโค๊ดลงไปนั่นเอง ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องมีเว็บไซต์สำหรับรองรับกับหน้าจออื่นๆอีกหลายๆตัว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเนื่องจาก หากเว็บไซต์ของเราไม่สามารถแสดงผลบน mobile ได้ดีเท่าที่ควรละก็ Google จะจัดอันดับให้เราไปอยู่ในลำดับท้ายๆของการค้นหา
3.เครื่องมือใหม่ๆในการออกแบบ
เครื่องมือใหม่ๆ จะเข้ามามีบทบาทในการช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการออกแบบมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Adobe XD ที่จะช่วยให้ดีไซเนอร์สามารถสร้างเว็บต้นแบบเพื่อประเมิน ความสวยงามและความเข้าใจของผู้ใช้งาน โดยยังไม่จำเป็นต้องเขียนโค๊ด ทั้งยังสามารถทำบน web browser ได้เลย และสร้างเว็บต้นแบบจากเครื่องมือนั้นได้ด้วย ข้อดีสำหรับลูกค้าก็คือจะไม่ต้องมานั่งทำความเข้าใจกับ wireframe แบบเก่าอีกต่อไป เพราะลูกค้าสามารถเห็นถึงหน้าตาตอนที่มันจะออกมาได้เลย
4.สร้าง UI Patterns and Framework ให้เว็บของคุณก่อน
การออกแบบ UI Patterns ไว้ก่อนจะทำให้กระบวนการทำงานง่ายขึ้น เนื่องจากอิงกับกระบวนการคิดในตอนเริ่มต้นทำให้เวลานำไปปรับใช้ในรูปแบบอื่นง่ายขึ้น
5.การใช้ภาพเพื่อให้เกิดความแตกต่าง
จากหัวข้อที่แล้วเราจะเห็นจุดบอดได้ว่า หากเราใช้ UI Patterns ที่เหมือนๆกันหมด แบรนด์ของเราจะไม่สามารถแสดงข้อแตกต่างจากแบรนด์อื่นได้ หนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาก็คือ การใช้รูปเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาพประกอบ การใช้งานกราฟิก หรืองานไทโปกราฟิก ก็ตามบางที่อาจจะเลือกใช้ภาพที่ถูกถ่ายมาโดยเฉพาะเผื่อนำมาสร้างเว็บไซด์เลยด้วย
6.การเคลื่อนไหวเรียกความสนใจ
เนื่องจากเว็บไซด์ และภาษาที่ใช้เขียนมีการพัฒนาขึ้นมากกว่าเก่าจึงไม่แปลกเลย ที่จะทำให้เว็บไซด์ของเราเวลาเปลี่ยนไปหน้าอื่นจะมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น หรือว่าหากเราคลิก ที่ปุ่มจะมีการตอบโต้เพื่อเรียกความสนใจจากผู้ใช้ซึ่ง HTML5, CSS และ jQuery จะเข้ามามีบทบาทในการช่วยให้เว็บของเราดูมีความน่าสนใจและสนุกมากขึ้น
7.Video become king
มีคนกล่าวไว้ว่า หากภาพ 1 ภาพแทนคำพูดได้หนึ่งพันคำ แล้วหากเรามีวีดีโอที่มีภาพมากมายละ ในปี 2017 หลายๆแบรนด์จึงหันมาทำ Video แทนเพราะมีความดึงดูดมากกว่าและใช้เวลาในการทำความเข้าใจน้อยกว่าการอ่าน ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าในปี 2018 video content จะมีประมาณ 80% ของคอนเทนต์ทั้งหมด
8.Card and grid UI
ช่วงนี้ Card UI ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักการพื้นฐานของ Google Material Design Card UI ได้รับความนิยมจาก Pinterest และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจาก Twitter และ Google Card UI คือส่วนของ content (ตัวหนังสือ ภาพ และ วิดีโอ) ที่ถูกจับแยกเป็นส่วนเหมือนกับ Card เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยให้แสดงได้จำนวนที่มากขึ้นในหน้าจอเดียว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกในสิ่งที่อยากดูได้
9.Innovative scrolling and parallax
หมดยุคที่เราจะยัดข้ออมูลสำคัญลงไปในหน้าแรกแล้ว เนื่องจากหน้าจอแพลตฟอร์มมีขนาดต่างกัน ทำให้ยากที่จะตัดสินว่าตรงไหนควรจะเป็นหน้าแรกที่ผู้ใช้เห็น การเลื่อนจอจึงเข้ากันได้ดีกับหลายๆคอนเทนต์ และเพิ่มความสวยงาม ความน่าสนใจให้กับตัวงานอีกด้วย เพียงแค่ต้องระมัดระวังให้ไม่ไปรบกวนการใช้งานของผู้ใช้เท่านั้นเอง
และสิ่งเหล่านี้ก็คือรูปแบบเทรนด์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการออกแบบเว็บที่ปัจจุบันผู้รับออกแบบเองก็ปรับเปลี่ยนพัฒนาให้งานออกแบบเว็บออกมาดีและตอบโจทย์มากที่สุด