จุดเริ่มต้นความฮอตฮิตของแอนิเมชั่นแนว Infogaphic ที่ทำให้คนไทยหันมาสนใจสื่ออย่าง Infogaphic และมีการรับทำ infographic กันอย่างมากมาย แน่นอนว่าถ้าให้นึกถึงจุดเริ่มต้นหรือภาพแรกในหัวก็คือแอนิเมชั่นแนว Infogaphic ของงานที่รู้จักกันหรือเรียกกันในชื่อ “รู้สู้ flood” “ปลาวาฬ” หรือ “ครอบครัวสติ” ที่คงทำให้หลายคนนึกถึงสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทย เมื่อปี 2554 ที่ผ่านไป

จุดเริ่มต้นความฮอตของ infographic ในไทย

ท่ามกลางภาวะที่ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก สับสน และสิ้นหวังกับความน่าเชื่อถือของข่าวสารจำนวนมากตลอด 24 ชั่วโมงนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งอยากรู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ และด้วยความอยากรู้ส่วนตัวนี้เอง ที่ทำให้เกิดความอยากผลิตงานที่น่าจะเป็นประโยชน์ ทั้งแก่ตัวเอง ครอบครัว และสังคม “รู้สู้ flood เอนิเมชั่น infographic” จึงเกิดขึ้น จากกลุ่มเพื่อนนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีทีมงานอาสาสมัครเข้าร่วมมากมาย เพื่อรับผิดชอบในหลายๆ ส่วนประกอบกันจนกลายเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่มีประชาชนกล่าวขวัญถึงมากที่สุดในสังคมออนไลน์ และกลายเป็นกระแสดังออกทีวีด้วยในช่วงเวลานั้น

“สติ” สิ่งสำคัญในการต่อสู้ทุกปัญหา

เรื่องของปลาวาฬสีฟ้าและครอบครัวสติ ตอบโจทย์ของสังคมที่ว่า “ใครก็ได้ช่วยบอกพวกเราที ว่าเราควรทำตัวอย่างไร” เนื้อเรื่องเข้าใจง่ายของผลงานชุดนี้ นำคำว่า “สติ” กลับมาเตือนใจคนดู ให้มองย้อนไปถึงความจริงที่ว่า หากเราหมกมุ่นอยู่กับการอ่านข่าวสาร แล้วตื่นตระหนก ขาดสติ เราจะรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างไร เมื่อทุกคนเห็นแก่ตัวเอง กักตุนสินค้า โดยลืมไปว่ามีประชาชนที่ขาดแคลนอีกมากมาย จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมอย่างไร เมื่อได้ดูผลงานของกลุ่มรู้สู้ floodแล้ว คนไทยและชาวต่างชาติมองวิกฤตน้ำเป็นเหมือนปลาวาฬที่ผ่านมาเยี่ยมเยียน มองผ่านปัญหารวมทั้งตั้งสติเพื่อเตรียมตัวไม่ให้เสียทรัพย์สินและกำลังใจโดยไม่จำเป็น งานสร้างสรรค์ชิ้นนี้เป็นตัวอย่างอันดีเยี่ยมซึ่งสะท้อนให้เราเห็นว่าคุณเองก็มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสังคมผ่านความสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง

ขั้นตอนการทำงาน

ส่วนขั้นตอนของการทำงานจะประกอบไปด้วย การรวบรวมข้อมูลที่น่าเชื่อถือ แล้วนำมาพูดคุยกันถึงเนื้อหาที่จะนำเสนอ โดยคิดว่าเราอยากรู้อะไร และใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ใครก็ดูได้ ก่อนจะมาตกลงกันว่าจะนำเสนอในรูปแบบของแอนนิเมชั่น infographic แบ่งเป็นกี่ตอน แต่ละตอนจะเสนออะไร แล้วลงมือผลิต และหาทีมงานที่เข้ามาช่วยกันทำงาน โดยมีทีมงานอยู่ประมาณ 40-50 คน สลับกันเข้ามา รวมถึงอาสาสมัครด้วย กับทีมงานอีกประมาณ 20 คน เป็นแกนหลักในการบริหารงาน จากนั้นก็เข้าสู่การเผยแพร่ผลงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ซึ่งการตอบรับนั้น ต้องบอกว่าเกินจากที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทำให้มีกำลังใจในการทำงานต่อไป

การสื่อความหมาย

การที่ใช้วาฬเป็นหนึ่งในตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องนั้น คือต้องการสื่อว่า น้ำปริมาณมาก เช่นเดียวกับคำว่า "รู้สู้ flood" ที่เป็นชื่อที่คิดว่าสื่อความหมายให้เข้าใจได้ดี คำไม่รุนแรง สามารถรับรู้ได้ง่าย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการคิดชื่ออื่นเหมือนกัน ก่อนจะมาลงตัวในชื่อดังกล่าว โดยการที่อยากฝากไปถึงคนที่รับข้อมูลข่าวสารว่า "เนื่องจากมีข้อมูลจำนวนเยอะมาก ฉะนั้น ในการเชื่อข้อมูลก็ขอให้มีการพิจารณาก่อน ทั้งนี้ การที่เรามีสติก็จะผ่านไปได้ แม้กระทั่งการเตรียมตัว การเรียนรู้ในการใช้ชีวิต การปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ก็จะเป็นสิ่งที่ดี มากกว่านั้น หากใครมีแรง มีเวลาในการช่วยเหลือ ก็ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องไปตักทรายใส่กระสอบอย่างเดียว แต่เราสามารถเอาความรู้ ความถนัดที่เรามีอยู่มาช่วยเหลืออย่างอื่นได้"

และนี้ก็คือหนึ่งที่ทีมคนรุ่นใหม่ที่ตื่นตัวขับเคลื่อน กล้าลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตนเองถนัดเพื่อช่วยสังคม จนกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความฮอตฮิตของสื่อแอนิเมชั่นแนว Infogaphic จนปัจจุบันกระแสการใช้สื่อแนวนี้และผู้รับทำ infographic เองก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : http://news.voicetv.co.th/thailand/22027.html

www.facebook.com/ROOSUFLOOD และ http://www.creativemove.com/design/roosuflood/