การที่เราจะนำเสนอเนื้อหาอะไรซักเรื่องหนึ่งที่มีข้อมูลอยู่ล้นหลามให้สามารถอ่านเข้าใจง่ายและรวดเร็ว วิธีการแก้ปัญหานี้สามารถทำผ่านสื่ออย่าง Infographic ได้ โดยคราวนี้เราจะมาแนะนำแนวทางการแปลงข้อมูลที่มีอยู่ในมือเราอันมหาศาลให้กลายออกมาเป็น Infographic กันครับ

1.เลือกหัวข้อหรือประเด็นที่น่าสนใจ

แน่นอนละว่าถ้าหัวข้อมันไม่น่าสนใจไม่แปลกใหม่เราทำ Infographic ออกมาก็ไม่มีคนมาสนใจ ดังนั้นนอกจากเราสืบค้นข้อมูลที่เราจะทำ Infographic แล้วเราต้องเช็คด้วยว่ามีใครนำหัวข้อไหนไปทำแล้วบ้าง และหัวข้อที่เราเลือกมาทำ Infographic นี้มีคนที่กำลังอยากรู้อยู่จริงๆ (ผมจะข้อแนะนำให้ลองค้นหาจาการตั้งกระทู้ในเว็ป pantip ครับ มันอาจะพอช่วยคุณได้บ้างฮาๆ) เอาละพอเราได้หัวข้อที่จะมาทำ Infographic กันแล้วเราก็จะพอเห็นทิศทางของงานประมาณหนึ่งแล้ว

2.จัดกลุ่มข้อมูลให้ดี

หากเรายังจำประสบการณ์งานกลุ่มในวัยเด็กได้ดีที่คุณครูจะให้เราทำ Mind Map รวมกับเพื่อนๆของเรา นั้นละครับเป็นวิธีที่ดีซึ่งเราได้ทำกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นวิธีดีที่สุดที่ช่วยแยกข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ ตัวอย่างเช่นแยกข้อมูลด้วยความเหมือนกัน เหตุผล สาเหตุ จุดกำเนิด ประเภท ลักษณะ ฯลฯ หลากหลายอย่าง แล้วแต่ว่าข้อมูลที่คุณเอาทำเป็น Infographic เป็นแบบไหน

3.คิด Mood Tone และ Theme

จากนี้ไปอาจจะต้องใช้ฝีมือทางด้านศิลปะเข้ามาช่วยสักหน่อย การที่เราจะนำเสนอข้อมูลให้สนุกดึงดูดคนมาดูมาอ่าน มันจะต้องมี Mood Tone และ Theme จะขออธิบายขยายความของทั้งสองคำนี้ก่อนนะครับ Mood Tone คือ สิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารไปในงาน ไม่ใช่หมายถึงเรื่องเนื้อหานะครับ หมายถึงอารมณ์และความรู้สึกของ Infographic เช่น เรียบง่าย ไฮเทค คลาสสิค โรแมนติก เป็นต้น การกำหนด Mood Tone จะทำให้ภาพลักษณ์ของงาน Infographic เราออกมาชัดเจนสวยงามครับ ต่อมา Theme คือ แนวทางเฉพาะเจาะจงในการสร้างภาพกราฟิกที่แสดงออกมา เช่น Theme-ย้อนยุคปี 60 Theme-ชาวประมง Theme-ชาวร็อค เป็นต้น คุณจะเห็นได้ว่าพอได้อ่านชื่อของแต่ละ Theme ที่ยกตัวอย่างไปแล้วเราจะเห็นภาพในหัวลอยออกมาว่ามันมีหน้าเป็นอย่างไรเลย ทั้งนี้การกำหนด Theme อาจจะต้องสอดคล้องไปกับ Concept ที่ต้องการสื่อสารและกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกัน

4.ส่วนสำคัญอย่าลืม Sketch

เมื่อเราได้สุดยอดหัวข้อ ได้จัดการข้อมูลจนเรียบร้อบ ได้ Mood Tone และ Theme ที่ดี ที่นี้เราก็ต้องลงมือทำ Infographic กันอย่างจริงจังโดยเริ่มที่การ Sketch แน่นอนว่าการร่างแบบร่างออกมาให้เห็นภาพคราวๆจะทำให้เรารู้ว่า เราควรจะเรียงลำดับข้อมูลอย่างไร ข้อมูลตรงไหนจะวางไว้ที่ไหน ภาพกราฟิกที่จะใส่เข้าไปจะอยู่ตรงไหน การทำ Infographic ก็เหมือนการวาดรูป หรืองานออกแบบอื่นๆ บางที่ทำแล้วไอเดียเราอาจจะมีมากกว่าหนึ่งแบบ เราอาจจะต้อง sketch Infographic ของเราออกมาหลายแบบเพื่อเลือกอันที่ดีที่สุดมาใช้

5.Graphic

ขั้นตอนนี้คือทำภาพกราฟิก ที่หลังจากเราเลือกแบบร่างของเราได้แล้วและปรับแก้ทุกอย่างจนลงตัวแล้วเราก็มาทำภาพกราฟิกตามแบบร่างที่ร่างเอาไว้ ใส่ข้อมูลที่เราวางไว้ในจุดที่คิด

6.Share

ท้ายที่สุดงาน Infographic จะไม่สมบูรณ์เลยถ้ามันไม่ไปถึงสายตาของผู้คนที่เราอยากจะสื่อสารด้วย การ Share งาน Infographic ของเรานั้นก็แล้วแต่สะดวกตามช่องทาง Social ที่คุณถนัดได้เลยครับ จะ Facebook IG Website แต่ทั้งนี้แล้วอย่าลืมเช็คด้วยว่า Social ที่คุณได้เลือกเอา Infographic ของคุณไปเผยแพร่นั้นซับพอร์ตขนาดภาพ งานของคุณไหม มีการบีบอัดภาพของคุณหรือเปล่า ไม่อย่างงั้น Infographic ของคุณอาจจะภาพเล็กหรือภาพแตกจนคนดูอ่านไม่ออกและดูไม่รู้เรื่อง Infographic ก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงการไกด์แนะนำว่าจะแปลงข้อมูลมาเป็น Infographic ได้อย่างไรสำหรับคนที่พึ่งเริ่มต้นหัดทำ หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้ Infographic ของคุณออกมาดูดีมีคนชอบกันนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : https://www.facebook.com/infographic.thailand/posts/1014223808620924